ผู้เขียน: admin

  • KUBET – คลิปวินาทีสยอง ปลายักษ์สวบหัวเงือกสาวต่อหน้าผู้ชม รู้ว่าได้ค่าชดเชยเท่าไหร่ยิ่งหดหู่

    เงือกสาวโชว์ตัวในอะควาเรียม ถูกปลาใหญ่สวบหัวต่อหน้าเด็ก ๆ คนดูช็อกกรี๊ดสนั่น เผยค่าชดใช้ที่ได้ แถมถูกบีบให้โชว์ต่อ

    เว็บไซต์ Daily Mail รายงานว่า เกิดเหตุการณ์สุดช็อกขึ้นในอะแควเรียมแห่งหนึ่งที่สิบสองปันนา ประเทศจีน เมื่อเงือกสาวที่กำลังทำการแสดงอยู่ภายในตู้ปลาขนาดใหญ่ของอะควาเรียม

    โดยขณะที่ มาช่า นักแสดงสาวชาวรัสเซีย วัย 22 ปี ซึ่งสวมชุดนางเงือก กำลังว่ายน้ำโชว์ตัวไปมาภายในตู้ปลา อยู่ ๆ ปลาขนาดใหญ่ตัวหนึ่งก็ตรงเข้ามาบริเวณด้านบนตัวเธอ ก่อนจะอ้าขากรรไกร งับเข้าที่ศีรษะของเธอเต็ม ๆ

    ภาพดังกล่าวทำให้เด็กๆ และผู้ชมต่างช็อกไปตาม ๆ กัน ทั้งกรี๊ดและตะโกนออกมาด้วยความหวาดกลัว แต่เคราะห์ยังดีที่นางเงือกสาวสามารถหนีออกจากขากรรไกรของปลายักษ์มาได้ในเวลาเพียงไม่กี่วินาที ก่อนที่เธอจะรีบว่ายขึ้นไปบนผิวน้ำ

    รายงานระบุว่า เธอได้รับบาดเจ็บบริเวณดวงตา ศีรษะ และลำคอ จากการถูกปลากัด ขณะที่แว่นตาและคลิปหนีบจมูกของเธอถูกปลากินเข้าไป

    ด้าน สื่อรัสเซีย รายงานว่า มาช่ายังถูกบังคับให้กลับเข้าไปในอะควาเรียม แม้จะยังมีอาการปวดจากแผลที่คอก็ตาม และได้รับการเสนอเงินเยียวยาจิตใจประมาณ 78 ปอนด์ (ประมาณ 3,200 บาท) จากเหตุการณ์นี้ แต่ถูกสั่งห้ามไม่ให้พูดถึงเรื่องนี้ เนื่องจากเจ้านายของเธอพยายามปิดข่าว

    ทั้งนี้ พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำจืดที่สวนป่าดึกดำบรรพ์สิบสองปันนา มีสัตว์สายพันธุ์พื้นเมืองหลากหลายชนิด ทั้งจากแม่น้ำโขงและแม่น้ำแยงซี รวมถึงสัตว์สะเทินน้ำสะเทินบกหายากอื่น ๆ ส่วนปลาใหญ่ที่งาบหัวนางเงือกนั้น ไม่มีข้อมูลเปิดเผยว่าเป็นสายพันธุ์ใด

  • KUBET – “แอริน ยุกตะทัต” เปิดใจทั้งน้ำตา “น้องอคิณ” ลูกชายวัย 3 เดือน เข้าผ่าตัดด่วน

    คุณแม่ป้ายแดง แอริน ยุกตะทัต ต้องเผชิญช่วงเวลาสุดสะเทือนใจ เมื่อ น้องอคิณ ลูกชายวัย 3 เดือน ตรวจพบภาวะ ไส้เลื่อน และจำเป็นต้องเข้ารับการผ่าตัดโดยด่วน

    แอรินเผยความรู้สึกผ่านโซเชียลว่า เพิ่งเข้าใจคำว่าใจจะขาด รู้ว่าเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้กับทุกคน แต่พอเป็นแม่แล้วต้องเห็นลูกตัวเล็กแค่ 3 เดือนต้องดมยาสลบและเข้าผ่าตัด มันทรมานใจมาก นอนร้องไห้เพราะสงสารลูก ทำไมต้องมาเจออะไรแบบนี้”

    นอกจากนี้ คุณแม่แอริน ยังได้บันทึกเหตุการณ์ทั้งหมดลงใน YouTube ช่อง “Aerin Yuktadatta Official” ซึ่งท้ายคลิปเผยให้เห็นว่าการผ่าตัดเป็นไปอย่างราบรื่น และ น้องอคิณ ปลอดภัยดี ท่ามกลางความโล่งใจของครอบครัวและแฟนคลับที่ส่งกำลังใจให้คุณแม่และลูกน้อยอย่างล้นหลาม

  • KUBET – ดื่ม “อเมริกาโน” ทุกวัน เกิดผลประโยชน์ และผลกระทบอะไรกับร่างกายบ้าง

    คุณเริ่มต้นวันใหม่ด้วยกาแฟร้อนๆ สักแก้วทุกเช้าหรือเปล่า? ต้องยอมรับเลยว่า รสชาติที่เข้มข้นและนุ่มนวลของกาแฟนั้นช่างเยี่ยมยอด แต่การดื่มอเมริกาโนทุกวันนั้นคุ้มค่าจริงหรือ? ในบทความนี้ เราจะมาสำรวจทั้งข้อดีและข้อเสียของเครื่องดื่มสุดโปรดชนิดนี้ ตั้งแต่คาเฟอีนที่ช่วยให้คุณกระปรี้กระเปร่าตลอดทั้งเช้า จนถึงอาการสั่นที่ทำให้คุณอยากจะซ่อนตัวอยู่ใต้โต๊ะ ดังนั้นเตรียมกาแฟสักแก้ว แล้วมานั่งคุยกันดีกว่าว่ากระแสกาแฟนี้มันดีจริงอย่างที่เขาว่ากันหรือเปล่า

    ประโยชน์ของการดื่มกาแฟอเมริกาโนทุกวัน

    1.เพิ่มพลังงานและความตื่นตัว ช่วยให้คุณเริ่มต้นวันใหม่ได้อย่างสดใส คาเฟอีนในกาแฟจะกระตุ้นระบบประสาท ทำให้คุณรู้สึกกระฉับกระเฉงและพร้อมที่จะทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

    2.ช่วยในการลดน้ำหนัก คาเฟอีนในกาแฟสามารถกระตุ้นการเผาผลาญ ทำให้ร่างกายเผาผลาญพลังงานได้มากขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยควบคุมความอยากอาหาร ช่วยให้คุณสามารถควบคุมปริมาณการบริโภคอาหารได้ดียิ่งขึ้น

    3.อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการปกป้องเซลล์ในร่างกายจากความเสียหาย และลดความเสี่ยงในการเกิดโรคเรื้อรังต่างๆ การดื่มกาแฟจึงเป็นวิธีหนึ่งในการเสริมสร้างสุขภาพที่ดี

    4.ช่วยในการพัฒนาสมรรถภาพทางกาย คาเฟอีนในกาแฟสามารถเพิ่มความแข็งแกร่งและความอดทน ช่วยลดอาการปวดกล้ามเนื้อ และส่งเสริมให้บรรลุเป้าหมายด้านสุขภาพได้ดียิ่งขึ้น

    ผลกระทบของการดื่มกาแฟอเมริกาโนทุกวัน

    การดื่มกาแฟอเมริกาโนเป็นประจำอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพในบางราย

    1.การบริโภคกาแฟอเมริกาโนก่อนนอนอาจส่งผลต่อคุณภาพการนอนหลับ คาเฟอีนในกาแฟสามารถรบกวนวงจรการนอน ทำให้เกิดอาการนอนไม่หลับหรือหลับไม่สนิท

    2.การบริโภคกาแฟอเมริกาโนสามารถกระตุ้นให้เกิดอาการวิตกกังวลได้ คาเฟอีนในกาแฟอาจทำให้หัวใจเต้นเร็วขึ้นและเหงื่อออกมากขึ้น ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อผู้ที่มีความวิตกกังวลอยู่แล้ว

    3.การบริโภคกาแฟในปริมาณมากอาจส่งผลให้ร่างกายขาดน้ำได้ เนื่องจากคาเฟอีนในกาแฟเป็นสารขับปัสสาวะ ทำให้ปัสสาวะบ่อยขึ้น ดังนั้นจึงควรดื่มน้ำสะอาดควบคู่ไปด้วย เพื่อป้องกันภาวะขาดน้ำ

    4.การบริโภคกาแฟอาจส่งผลกระทบต่อระบบทางเดินอาหาร ทำให้เกิดอาการแสบร้อนกลางอก อาหารไม่ย่อย หรือกรดไหลย้อน

    ปริมาณการดื่มกาแฟอเมริกาโนที่เหมาะสมต่อวันนั้นแตกต่างกันไปตามบุคคล เนื่องจากความสามารถในการรับคาเฟอีนของแต่ละคนไม่เท่ากัน อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญส่วนใหญ่แนะนำว่า การบริโภคคาเฟอีนไม่เกิน 400 มิลลิกรัมต่อวัน ถือว่าปลอดภัยสำหรับผู้ใหญ่ที่มีสุขภาพดี นอกจากปริมาณแล้ว วิธีการดื่มก็สำคัญ การเติมน้ำตาลและครีมมากเกินไปอาจเพิ่มปริมาณแคลอรี่และสารที่ไม่ดีต่อสุขภาพ ควรเลือกดื่มอเมริกาโน่แบบดำหรือเติมนมเพียงเล็กน้อย ควรสังเกตอาการของร่างกายหลังจากดื่มกาแฟ หากรู้สึกกระสับกระส่ายหรือวิตกกังวล ควรลดปริมาณการดื่มลง

  • KUBET – “เบาหวิว สะพานแขวน” ศิลปินตลก เสียชีวิตอย่างสงบ คนในวงการร่วมอาลัย

    วงการตลกไทยสูญเสียอีกครั้ง เมื่อ วินัย บุญแก้ว หรือที่รู้จักกันในชื่อ เบาหวิว สะพานแขวน นักแสดงตลกชื่อดัง เสียชีวิตอย่างสงบเมื่อวันที่ 30 มกราคม 2568 หลังจากล้มป่วยและรักษาตัวมาเป็นเวลาหลายปี

    เพจ ดาราภาพยนตร์ ได้แจ้งข่าวเศร้าผ่านเฟซบุ๊ก พร้อมแสดงความอาลัยต่อการจากไปของศิลปินตลกผู้เป็นที่รัก โดยระบุว่า

    เรื่องเศร้าคนบันเทิง วงการตลกเศร้าอีกครั้งกับการจากไปของ #เบาหวิวสะพานแขวน #วินัยบุญแก้ว จากไปอย่างสงบ หลังป่วยนานปี

    ทีมข่าวดาราภาพยนตร์ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัว “วินัย บุญแก้ว” หรือตลก”เบาหวิว สะพานแขวน” ที่จากไปอย่างสงบหลังป่วยและรักษาตัวมาระยะหนึ่ง
    “เคยร่วมงาน ช่อง 11 NBT
    น้องคนดี นามเบาหวิว สะพานแขวน
    เป็นตลก ร่างท้วม แต่มาดแมน
    เสียงแปร๋นๆ กรู้กรู้ เป็นเอกลักษณ์
    ชื่อสกุล นายวินัย บุญแก้ว
    จากไปแล้ว ตลกไทย เคยป่วยหนัก
    สู่สุคติ สรวงสวรรค์ เถิดน้องรัก
    จะได้พัก หลับสบาย ด้วยอาลัย”
    บทอาลัยโดย #ซ่าส์หมาว้อ

    ขณะที่ ถั่วแระ เชิญยิ้ม ตลกรุ่นใหญ่ ได้โพสต์ภาพบรรยากาศในพิธีศพ พร้อมข้อความไว้อาลัยว่า “ศิลปินตลกต้องจากพวกเราไปอีกแล้ว ขอแสดงความอาลัยและเสียใจอย่างยิ่งกับ วินัย บุญแก้ว (เบาหวิว สะพานแขวน) ขอให้น้องไปสู่ภพภูมิที่ดี และพบพระศรีอารย์ในเบื้องบน”

    ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวและแฟนคลับของ เบาหวิว สะพานแขวน กับการจากไปของศิลปินตลกผู้มอบเสียงหัวเราะให้กับคนไทยมาอย่างยาวนาน

  • KUBET – อาหารที่อันตรายที่สุดในโลก คร่าชีวิตกว่า 200 รายต่อปี แต่ยังเป็นเมนูโปรดของผู้คน

    ปรุงผิดชีวิตเปลี่ยน! เปิดชื่ออาหารที่อันตรายที่สุดในโลก คร่าชีวิตผู้คนกว่า 200 รายต่อปี แต่ยังคงเป็นเมนูโปรดของคนทั้งโลก

    หนึ่งในอาหารที่อันตรายที่สุดในโลกถูกบริโภคโดยคนกว่า 500 ล้านคน ความนิยมอย่างแพร่หลายนี้อาจเป็นเหตุผลที่ทำให้มันมีชื่อเสียงด้านความเสี่ยง หากเตรียมไม่ถูกวิธี

    เมื่อเราบอกว่าเป็น “อาหารที่อันตรายที่สุดในโลก” หมายถึงอาหารจริง ๆ ไม่ใช่สิ่งแปลกประหลาดที่ไม่น่ารับประทาน

    มีสิ่งมากมายที่สามารถฆ่าคุณได้ในพริบตา แต่โดยทั่วไปแล้ว สิ่งเหล่านั้นไม่ใช่เมนูประจำบนโต๊ะอาหาร

    “มันสำปะหลัง” ถือเป็นอาหารหลักที่มีผู้บริโภคกว่า 500 ล้านคนทั่วโลก โดยมีการผลิตหลายร้อยล้านตันต่อปีเพื่อการบริโภค

    พืชชนิดนี้เติบโตได้ดีในเขตร้อน โดยมีถิ่นกำเนิดในอเมริกาใต้ แต่ปัจจุบันไนจีเรียกลายเป็นผู้ผลิตรายใหญ่ที่สุดของโลก

    แม้มันสำปะหลังจะเป็นอาหารยอดนิยม และเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันของผู้คนจำนวนมาก แต่ราก เปลือก และใบของมันสำปะหลังไม่ควรรับประทานดิบ เพราะมีสารพิษที่สามารถปล่อยไซยาไนด์ได้

    พันธุ์ที่มีรสหวานอาจมีไซยาไนด์เพียง 20 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม แต่พันธุ์ขมที่สุดอาจมีปริมาณสูงถึง 1,000 มิลลิกรัมเลยทีเดียว

    องค์การอนามัยโลกประเมินว่าการได้รับพิษจากมันสำปะหลังคร่าชีวิตผู้คนประมาณ 200 รายต่อปี แม้จะถูกจัดอยู่ในกลุ่มอาหารที่อันตรายที่สุดในโลก แต่จำนวนคนที่บริโภคมันเป็นประจำโดยไม่มีปัญหาก็ยังมีอยู่มาก

    นั่นเป็นเพราะมนุษย์มีความชาญฉลาด และเรียนรู้วิธีเตรียมอาหารที่อาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพให้ปลอดภัยต่อการบริโภค

    เช่นเดียวกับเชฟที่ต้องผ่านการฝึกฝนเพื่อเตรียมปลามีพิษร้ายแรงให้กลายเป็นเมนูสุดพิเศษ การลดความเสี่ยงจากการบริโภคมันสำปะหลังก็เป็นอีกหนึ่งทักษะที่เราเรียนรู้มา

    หากกินส่วนต่าง ๆ ของมันสำปะหลังดิบหรือแปรรูปไม่ถูกต้อง อาจถึงแก่ชีวิตได้ อีกทั้งยังเชื่อมโยงกับโรคระบบประสาทอย่างภาวะเดินเซ (Ataxia) ซึ่งเป็นผลกระทบต่อสุขภาพที่ร้ายแรงแม้จะไม่ถึงตาย

    การเตรียมมันสำปะหลังอย่างถูกวิธี เช่น การแช่ในน้ำนานถึง 24 ชั่วโมง เป็นขั้นตอนสำคัญที่ช่วยลดความเสี่ยงและทำให้อาหารปลอดภัยยิ่งขึ้น

    ความเสี่ยงจากมันสำปะหลังดูเหมือนจะเพิ่มขึ้นในช่วงที่อาหารขาดแคลน เนื่องจากผู้คนอาจหันไปบริโภคพันธุ์ขมที่มีโอกาสมีไซยาไนด์ในปริมาณสูงกว่า

    ในช่วงวิกฤติอาหารที่เวเนซุเอลาเมื่อปี 2017 หนังสือพิมพ์ El Pais รายงานว่ามีผู้เสียชีวิตจากการบริโภคอาหารรสขมเพื่อประทังความหิว

  • “ศรีริต้า-กรณ์” สมฐานะครอบครัวหมื่นล้าน เปิดบ้านไหว้ตรุษจีน จัดเต็มทั้งทอง-อั่งเปา

    ต้อนรับวันตรุษจีน เทศกาลปีใหม่ชาวไทยเชื้อสายจีนอีกครอบครัว สำหรับนางเอกสาว ศรีริต้า เจนเซ่น กับสามีไฮโซหนุ่ม กรณ์ ณรงค์เดช ที่ปีนี้ได้เปิดบ้านไหว้ พร้อมต้อนรับคณะเชิ่ดสิงโตถือเป็นการเอาฤกษ์เอาชัย

    โดย กรณ์ ณรงค์เดช ก็ได้เผยให้เห็นภาพบรรยากาศแห่งความอบอุ่นภายในครอบครัว ซึ่งทุกคนก็ได้ใส่ชุดจีนตามเทศกาลอีกด้วย

    “Welcome the year of snake ซินเจียอยู่อี่ ซินนี้ฮวดใช้ ขอให้เป็นปีที่ดีของทุกๆคนนะครับ นำมาซึ่งความสุข ความร่ำรวยทรัพย์สินเงินทอง และสุขภาพที่แข็งแรงกันถ้วนหน้าครับ”

    งานนี้นอกจากความสดใสน่ารักแล้ว หลายคนยังโฟกัสไปที่อั่งเปาปึกหนา บวกกับทองคำแท่ง ที่ทำเอา น้องกวิณท์ ลูกชายคนโตถึงกับยิ้มแก้มปริเลยจ้า

  • รู้หรือไม่? ฮาร์วาร์ดพบ “ผลไม้” ช่วยเพิ่มอายุขัย ความหวังใหม่คนชรา เมืองไทยมีให้กินเพียบ!

    ทีมวิจัยฮาร์วาร์ดค้นพบ 1 ผลไม้ แม้ไม่ใช่ “ยาอายุวัฒนะ” แต่กินดี อาจช่วยเพิ่มอายุขัย เมืองไทยมีให้กินเยอะมาก

    เมื่อไม่นานมานี้ การศึกษาจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ได้เผยแพร่ข้อมูลที่น่าสนใจเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่าง “กล้วย” และอายุขัยของมนุษย์ การค้นพบนี้ไม่เพียงแต่สร้างความตื่นตาตื่นใจในวงการวิทยาศาสตร์เท่านั้น แต่ยังสร้างความหวังใหม่ในการยืดอายุชีวิต โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่อยู่ในวัยกลางคนและผู้สูงอายุ

    กล้วย เป็นผลไม้ที่คุ้นเคยในชีวิตประจำวัน และมีคุณประโยชน์ที่น่าทึ่งในเรื่องการยืดอายุขัย ประกอบด้วยสารอาหารที่ดีต่อร่างกายหลายชนิด โดยเฉพาะโพแทสเซียมที่ช่วยปกป้องระบบหัวใจและควบคุมความดันโลหิต ช่วยลดความเสี่ยงของความดันโลหิตสูง ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของโรคเรื้อรังหลายชนิด และแน่นอนว่าการควบคุมความดันโลหิตได้ดีมีความสำคัญในการยืดอายุขัย

    ใยอาหารในกล้วยยังทำหน้าที่เหมือน “เครื่องทำความสะอาดลำไส้” สามารถช่วยกระตุ้นการทำงานของลำไส้ ป้องกันอาการท้องผูก และส่งเสริมการทำงานของระบบย่อยอาหารให้แข็งแรง ช่วยให้ร่างกายดูดซึมสารอาหารและขับของเสียได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลดความเสี่ยงของโรคที่เกี่ยวกับลำไส้ ในขณะเดียวกัน การทานกล้วยยังให้สารต้านอนุมูลอิสระมากมาย ซึ่งช่วยปรับสมดุลอารมณ์

    นอกจากโพแทสเซียมและใยอาหารแล้ว กล้วยยังอุดมไปด้วยวิตามินซี และวิตามินบี6 ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยป้องกันความเสียหายของเซลล์ และช่วยชะลอการเสื่อมของร่างกาย สำหรับผู้ที่อยู่ในวัยกลางคนและผู้สูงอายุ การมีสารต้านอนุมูลอิสระจึงมีความสำคัญ เนื่องจากเมื่อร่างกายเสื่อมสภาพมากขึ้น อนุมูลอิสระจะเพิ่มขึ้นและสะสมมากขึ้น การทานกล้วยจึงเป็นทางเลือกที่ดีและคุ้มค่า

    อย่างที่กล่าวไปข้างต้นแล้วว่า การกินกล้วยให้สารต้านอนุมูลอิสระมากมายและปรับสมดุลอารมณ์ เนื่องจากมีทริปโตเฟนที่สามารถเปลี่ยนเป็นเซโรโทนิน ซึ่งเป็นสารที่ช่วยปรับอารมณ์ให้อารมณ์ดีขึ้น โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่อยู่ในวัยกลางคนและผู้สูงอายุ ที่มักจะมีความเครียดและอารมณ์แปรปรวนได้ง่าย ขณะเดียวกันกล้วยยังเป็นแหล่งพลังงานที่ให้พลังงานได้อย่างรวดเร็ว ด้วยคาร์โบไฮเดรตที่ย่อยง่าย เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการรักษาระดับพลังงานในร่างกาย

    ทั้งนี้ เคล็ดลับในการยืดอายุ ควรจำไว้ว่าการทานกล้วยสามารถส่งผลดีต่ออายุขัย แต่ไม่ใช่ “ทางออกสุดท้าย” เรายังคงต้องมีวิถีชีวิตที่ดี เช่น การทานอาหารที่มีความสมดุล ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ นอนหลับให้เพียงพอ หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่ และจำกัดการดื่มแอลกอฮอล์ เพราะทั้งหมดล้วนมีผลสำคัญในการยืดอายุ

    การศึกษาของมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ไม่เพียงแต่เปิดเผยความสัมพันธ์ระหว่างกล้วยและอายุขัย ให้ความหวังและแนวทางใหม่ๆ ในการดูแลตัวเอง แต่ยังช่วยให้เราเห็นความสำคัญของการมีสุขภาพที่ดีและการมีชีวิตยืนยาว เริ่มต้นจากวันนี้ เราควรให้ความสำคัญกับการทานอาหารที่หลากหลายและมีประโยชน์ เพื่อให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่ครบถ้วน พร้อมกับรักษาวิถีชีวิตที่ดีและจิตใจที่สดใส  เพื่อเพิ่มอายุขัยและเพลิดเพลินกับชีวิตให้มากขึ้น

     

  • “จุ๋ย วรัทยา” อวดความรัก “น้องเจเพิร์ล” เจ้าหัวฟูของแม่ อายุใกล้ครบ 2 เดือน

    น้องเจเพิร์ล ลูกสาวของแม่ จุ๋ย วรัทยา กับพ่อ ดีเจพุฒ พุฒิชัย ฉายแววสวยตั้งแต่เด็กจริงๆ แถมยิ่งมองก็ยิ่งเหมือน น้องพีร์เจ พี่ชายคนโตตอนเด็กเหลือเกิน 

    อย่างเซ็ตภาพล่าสุดที่ แม่จุ๋ย เพิ่งจะอัปเดตภาพลูกสาวตัวน้อยที่อายุใกล้จะครบ 2 เดือน และแม่เรียกลูกสาวว่า เจ้าหัวฟู เพราะน้องผมดกดำมากลูก กับแคปชั่นที่แม่เขียนไว้ว่า 

    “เจ้าหัวฟูของหม่ามี้กำลังจะครบ 2 เดือนละค่ะ #jayypearl #เจเพิร์ล #ลูกพ่อพุฒแม่จุ๋ย @pjjayypearl_pjjp” 

    ทำเอาพี่ๆ ชาวโซเชียลเข้ามากดไลก์และคอมเมนต์กันรัวๆ เลย เช่น น่ารักจิ้มลิ้ม สวยเหมือนแม่เลย,น่ารักมากกกกกกกกกกกก,สวัสดีคนสวยยย,น่ารักกก,น่ารักน่าชังจังเลยค่ะ,น่ารัก อยากเจอจังเลย

  • หมอช้าง เคาะแล้ว! 3 ราศี ดวงเฮงดวงปัง รับตรุษจีน 2568

    ใกล้เข้าสู่ช่วงเทศกาลตรุษจีน 2568 วันที่ 29 มกราคม นี้แล้ว มาเช็กดวงกันดีกว่า ซึ่งล่าสุด Sanook ได้พบกับ หมอช้าง ทศพร ศรีตุลา นักพยากรณ์ชื่อดัง ที่งาน centralwOrld The Great Chinese New Year 2024 เราก็พลาดที่จะให้หมอช้าง เคาะ 3 ราศีที่ดวงเฮง ดวงปังรับตรุษจีน 2568 นี้ จะมีราศีใดบ้าง มาเช็กดวงกันเลย!

    โดยหมอช้าง ทศพรเผยว่า ในช่วงตรุษจีนนี้ ก็มีบางราศีที่ดวงดี ได้แก่ ราศีมีน จะเป็นราศีที่โดดเด่นในเชิงของโชคลาภ ใครที่รอลุ้นในเรื่องของโชคลาภราศีนี้จะมีข่าวดีเข้ามา

    ต่อมาจะเป็นราศีพฤษภ จะมีดวงเด่นในลักษณะของการโปรโมต เรื่องงาน ความก้าวหน้าในการทำงาน จะมีดวงโดดเด่นในเรื่องของตำแหน่ง หน้าที่การงาน การได้เลื่อนขั้นเลื่อนตำแหน่ง

    สุดท้ายเป็นราศีเมษ จะเป็นราศีที่มีดวงโดดเด่นในเรื่องความรัก อาจจะมีคนรักเก่ากลับมา หรือโอกาสได้เริ่มต้นอะไรใหม่ ๆ จะมีโอกาสมีลุ้นได้สละโสดรับเทศกาลตรุษจีน

  • วันที่ “แม่ชม” ไปปารีส “น้องเกล” อยู่กับ “ยายหนิง” แต่ละช็อตธรรมชาติมาก

    ยายหนิง เลี้ยงหลานสาวสุดที่รัก น้องเกล ระหว่างที่ แม่ชม ไปปารีส แต่ละช็อตธรรมชาติมาก

    เป็นภาพที่น่ารักมากๆ ในวันที่ ชมพู่ อารยา ต้องเหินฟ้าไปปฏิบัติภารกิจแฟชั่นโอตกูตูร์ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส และต้องฝากลูกๆ ไว้กับ ยายหนิง คุณยายซุปตาร์ 

    และหากใครติดตามไลฟ์สไตล์ของ ยายหนิง นอกจากจะทำอาหารแจกเมนูเด็ดให้กับแฟนคลับแล้ว ยังมีอาณาจักรแปลงเกษตรพืชผักสวนครัวให้ได้เก็บเกี่ยวผลผลิตแล้ว ยังเป็นพื้นที่ให้หลานๆ ได้มาวิ่งเล่นกันอีกด้วย 

    ซึ่งอีกหนึ่งกิจกรรมของ ยายหนิง นอกจากเข้าสวน ทำอาหารแล้ว ยังเลี้ยงหลานๆ ด้วยความสุขใจอีกด้วย 

    และภาพล่าสุด ยายหนิง กับหลานสาว น้องเกล นอนหลับสบายบนโซฟาอันนุ่มนิ่ม และที่สบายสุดๆ ดูจากท่านอนแล้ว เจ๊เกล ทิ้งตัวได้อย่างสบายอารมณ์ในอ้อมกอดของคุณยาย 

    หลายคนเห็นภาพนี้แล้วต่างกดไลก์รัวๆ กับความน่ารักน่าเอ็นดูของยายหลาน